การพัฒนานักเรียนโดยส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านกีฬา
ชื่อสกุล นางรัตาภรณ์ ลัธธนันท์
โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี
อำเภอ เมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
อุดมคติในการทำงาน ทำวันนี้ของตนเองให้ดีที่สุด และแบ่งปันโอกาสให้กับคนรอบข้าง
ข้าพเจ้าเกิดมาในครอบครัวของ “คุณครู” นับตั้งแต่คุณตา เป็นครูใหญ่ มีคุณพ่อ ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณแม่เป็น คุณครูที่โรงเรียนวัดอินทราราม กรุงเทพฯ มีคุณป้าเป็นอาจารย์สอนวิทยาลัยครูธนบุรี ในสมัยนั้น บุคคลที่อยู่รอบตัวล้วนเป็นแบบอย่างและหล่อหลอมให้ข้าพเจ้ามีความรัก และความศรัทธาต่อวิชาชีพครู และเมื่อได้เข้ารับการศึกษาได้รับความรัก ความเมตตาและการได้รับการพัฒนาและโอกาสจากครูบาอาจารย์ ที่ประสิทธิประสาทวิชามาตั้งแต่เยาววัยจนถึงจบการศึกษาในระดับปริญญา จึงทำให้ข้าพเจ้ารับรู้ได้ว่า การที่ข้าพเจ้าประสบความสำเร็จได้ก็เพราะการได้รับการสั่งสอนและโอกาสจากคุณครูทั้งหลาย ดังนั้นจึงเป็นความตั้งใจของข้าพเจ้าที่จะแบ่งบันโอกาสให้กับเด็กๆ ลูกศิษย์ของข้าพเจ้าเพื่อเข้าจะได้มีโอกาสและประสบความสำเร็จได้ มีประโยชน์ต่อสังคม
ในการปฏิบัติหน้าที่ครู เมื่อได้ศึกษานักเรียนที่ข้าพเจ้าดูแลอยู่ ทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นสภาพของครอบครัว วิธีการเลี้ยงดู ที่แตกต่างกัน ยิ่งอยู่ในภาวะสังคมปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากมาย รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีอายุน้อยลง ขาดความรับผิดชอบและความสมบูรณ์ในการปกครองเป็นแบบอย่างกับเด็ก ทำให้เด็กๆ มีปัญหาทางวิธีคิด การปฏิบัติตัว ขาดวินัย ส่งผลให้ประพฤติตนผิดระเบียบ ละเลยข้อบังคับของโรงเรียน ขาดความรับผิด เป็นไปได้ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เด็กบางคนที่ครอบครัวมีการหย่าร้าง หรือไม่ได้อยู่กับครอบครัวจริง อาศัยกับญาติ ตายาย ก็ไม่สามารถสร้างวินัยให้เขาได้ ปัญหาเหล่านี้ล้วนรุนแรงขึ้นทุกวัน การปกครองด้วยการลงโทษที่รุถนแรง การไล่นักเรียนออก ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีนัก ช่วงเวลามัธยมเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงที่ต้องให้การช่วยเหลือเด็กๆ ให้ก้าวผ่านไปได้ เขาก็จะมีความมั่นคงในชีวิตต่อไปได้
ข้าพเจ้าได้มีโอกาสรับผิดชอบกิจกรรมกีฬาแฮนด์บอลตั้งแต่ปี 2547 โดยเริ่มต้นจากลูกของตนเองที่เล่นกีฬา ลูกๆ และเพื่อนๆ ของลูกรวมกลุ่มกันเพื่อฝึกซ้อมกีฬาบาสเกตบอลและแฮนด์บอล จากการสังเกตพัฒนาการของลูกจะพบว่ากีฬา ช่วยพัฒนากระบวนการคิด กระบวนการทำงานของเด็ก เป็นการทำงานอย่างสนุกสนาน ถึงจะเหนื่อยกับการซ้อมแต่เขาก็มีความสุขกับเพื่อนๆ เด็กๆจะมีความภูมิใจเมื่อได้ลงแข่งขัน ข้าพเจ้าจึงคิดได้ว่าถ้าเราให้เด็กๆ รักการเล่นกีฬา แล้วเราก็จะพัฒนาด้านอื่นๆได้โดยใช้กีฬาเป็นสื่อ จากนั้นข้าพเจ้าจึงเริ่มพัฒนาทีมกีฬาแฮนด์บอล โดยรับนักเรียนที่มีความสนใจ ไม่จำเป็นต้องเก่งกีฬา ที่สำคัญ ขอให้เป็นนักเรียนที่อยากมาเล่นสนุก มีนักเรียนที่ค่อนข้างมีปัญหาด้านความประพฤติ นักเรียนที่ชอบใช้ความรุนรง มีนักเรียนไม่ชอบเรียนหนังสือ และนักเรียนที่มีภาวะเรียนช้าไม่ทันเพื่อน นักเรียนดังกล่าวมักจะไม่ได้รับการยอมรับจากครู และกลุ่มเพื่อน เขาจึงอยากหาพื้นที่ที่ทำให้เขามีความสุขอยู่ได้ สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าพัฒนาคือให้เขามีความมั่นใจในตนเอง รักตนเอง ให้เขาเล่นกีฬาเพราะความสนุกของตนเอง หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็จะสร้างกลุ่มสังคมให้เขา นอกจากซ้อมกีฬา เรายังมีกิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมละลายพฤติกรรม เพื่อให้เขารู้สึกอบอุ่น ในทีมมีระบบพี่ดูแลน้องที่เข้มแข็งที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น พี่ๆต้องมีหน้าที่ดูแล ฝึกสอนน้องให้เก่ง น้องๆ ก็จะต้องเชื่อฟัง และรู้จักการเป็นผู้ตามที่ดี การสร้างความอบอุ่นทำให้ทีมแฮนด์บอลพี่น้องวนเวียนไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ ถึงแม้พี่ๆจะไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย หรือจบการศึกษาไปแล้ว เมื่อมีเวลาว่างหรือปิดเทอมที่สนามแฮนด์บอลจึงเป็นที่นัดพบศิษย์เก่าเสมอๆ นอกจากความอบอุ่น ข้าพเจ้าก็เริ่มจัดระบบให้กับนักกีฬา เมื่อเขาไปแข่งเขาก็อยากชนะในการแข่งขัน วิธีการชนะทีมอื่นๆได้ เขาต้องทำอย่างไร เขาต้องมีวินัย ในการฝึกซ้อมในสนาม มีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน ใฝ่เรียนรู้ สิ่งเหล่านี้จะถูกจัดกิจกรรมหล่อหลอมให้เขาในสนามซ้อมทุกวัน เมื่อมีโอกาสเข้าค่ายเก็บตัวฝึกซ้อม หรือต้องเดินทางไปแข่งขันที่ต่างจังหวัด การอยู่ ใช้ชีวิต กิน นอน เที่ยว ร่วมกัน ทำให้ข้าพเจ้าสามารถสอน และส่งเสริมการจัดระเบียบชีวิตส่วนตัวของเด็กๆ ได้มากขึ้น ข้าพเจ้าสอนให้เห็นถึงความสามัคคี การอยู่ร่วมกัน การทำงานเป็นทีม การมีน้ำใจ มีการเสียสละ ตามกติกาของทีมนั้นพี่ๆ ต้องเป็นผู้เสียสละก่อน มีหน้าที่ดูแลน้องๆ ถ้าโดนทำโทษก็จะทำโทษพี่ก่อน จะทำให้น้องๆ เกรงใจและเคารพเชื่อฟังรุ่นพี่ นอกจากนี้ยังต้องสอนให้เขามีเป้าหมายชีวิต มุ่งหาอนาคตจะไปทางไหน นักกีฬาแต่ละคนจะเลือกเส้นทางการเรียนต่อของตนเอง โดยปรึกษากันร่วมกับครู มีการเตรียมตัววางแผนเพื่อที่จะให้มีคุณสมบัติเข้ารับโควตาพิเศษจากมหาวิทยาลัยต่างๆ สิ่งที่สำคัญของการอยู่ร่วมกันคือ เขาต้องรู้ว่าเขาเป็นคนสำคัญของเรา เป็นคนที่เราห่วงใย เมื่อมีปัญหาใดๆ เขาจะเดินมาหาเรา และต้องให้เขาเชื่อมั่นว่าเราจะเป็นคนสุดท้ายที่คิดจะทำร้ายเขา นอกเหนือจากความรักและความเมตตาแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการอบรมสั่งสอนด้านวินัย การมีกฎกติกาให้เขาได้ปฏิบัติ ขณะเดียวกันก็ต้องมีมาตรการในการควบคุมให้เขาปฏิบัติตามและบทลงโทษ ซึ่งต้องมีความเหมาะสมกับโทษ เช่น ในเรื่องการเรียน นักกีฬาที่สอบไม่ผ่านในรายวิชาต่างๆ จะต้องขอสอบใหม่เรียนซ่อมเสริม ตามกำหนดเวลาให้เสร็จสิ้นก่อนไปทำการแข่งขัน นักเรียนคนใดที่ไม่ปฏิบัติตามในเรื่องการเรียน จะถูกพักการแข่งขันการซ้อม หรือให้ไปเพื่อคุความ ประพฤติแต่ไม่ให้ลงทำการแข่งขัน เป็นต้น การวางกติกาและ การหาวิธีเข้มงวดให้นักเรียนปฏิบัติตามกติกา เป็นวิธีการเดินที่ข้าพเจ้าใช้ในการเสริมสร้างวินัย ที่ได้ผลดีเพราะนักเรียนจะเกิดความตระหนัก มีความรับผิดชอบขึ้นเพราะกลัวไม่ได้ไปแข่งขันกีฬา
การดูแลนักกีฬาทั้งหมดของข้าพเจ้า คือ การพัฒนานักเรียนโดยการส่งเสริมกีฬา เป็นงานที่ทำต่อเนื่องมาโดยตลอดกว่สิบปี การทำงานของข้าพเจ้ามุ่งเน้นในการพัฒนานักเรียน ในเรื่องการใช้ชีวิต การเห็นคุณค่าในตนเอง การทำงานร่วมกับผู้อื่น การได้ความสำเร็จในเรื่องการแข่งขันกีฬาเป็นเรื่องของโอกาสและประโยชน์ที่ได้จากการพัฒนานักกีฬา ดังนั้นนักเรียนทุกคนจะได้รับความรักและความเอาใจใส่ เท่าเทียมกัน นักเรียนบางคนอยู่ในทีมได้ทั้งที่ไม่เก่งในเรื่องกีฬา แต่เขาอยากพัฒนาตนเอง ผลจากการทำงานทำให้นักกีฬาของข้าพเจ้าได้รับการพัฒนาตนเอง และได้รับโอกาสต่างๆ ในสังคม ได้รับการยอมรับ และที่สำคัญสามารถมีโอกาสเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้ นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังสามารถสร้างกลุ่มสังคมแฮนด์บอลของจังหวัดเพชรบุรีให้มีความ รัก ความอบอุ่น ความผูกพัน การเคารพดูแลกันระหว่าพี่ๆน้อง ซึ่งมีข้าพเจ้าเป็นผู้ปครองดูแล ค่อยเฝ้าติดตามดูพัฒนาการ ของเด็กเหล่านี้ แม้บางครั้งปัญหาจากครอบครัว สังคมแวดล้อม ทำให้เด็กๆ ออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง การพยายามล้อมรอบให้เด็กๆ ที่ออกนอกกรอบไม่หลุดจากกรอบไปมากเป็นเรื่อง ที่ยาก และเหนื่อยหนัก แต่การทำให้เด็กๆได้ก้าวผ่านชีวิตมัธยมปลายไปไดอย่างปลอดภัยและมั่นคง เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็มีความสุข เปรียบเหมือนเพาะพันธุ์ต้นไม้เล็กๆ จนเติบโตยืนต้น ออกดอกออกผลได้ก็ชื่นใจคนปลูกเป็นที่สุด